Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน คือ เอกสารที่แสดงตัวตน ความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม ตลอดจนรางวัลที่ได้รับ ที่มีความสอดคล้องกับสาขาวิชาที่เราสมัคร
การนำไปใช้ในระบบ TCAS
ใช้เป็นเครื่องมือแข่งขันหลักในรอบที่ 1 และอาจมีใช้ประกอบบ้างในรอบที่ 2 โดยทางมหาวิทยาลัยอาจจะขอใช้ แจกportfolio เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณา
ประเภทของ Portfolio
1. ผลงานที่สะสมมาในอดีตย้อนหลัง 3 – 4 ปี ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่สมัคร
2. ผลงานที่สร้างตามโจทย์ที่สาขากำหนด (โจทย์เปลี่ยนทุกปี ไม่ต้องลอกกัน ให้ติดตามจากประกาศของแต่ละสาขา
หัวใจของ Portfolio ที่กรรมการมองหา
1. ทำตามคำสั่งที่แต่ละสถาบันกำหนดถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
2. มีความสร้างสรรค์ภายใต้กติกาอย่างไร
3. เลือกผลงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสาขาหรือไม่ โดยน้อง ๆ ต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่า เราได้อะไรจากกิจกรรม และสิ่งที่ได้นั้นทำให้เรามองเห็นถึงความเหมาะสมในการเลือกเรียนสาขาวิชานั้น ๆ อย่างไร ไม่ใช่แค่โชว์ว่าไปชนะอะไรมา แต่ต้องสื่อสารได้ว่าชนะแล้วไง เกิดอะไรกับชีวิต เป็นประโยชน์อะไรต่อการศึกษาและอนาคตตน
4. แสดงเป้าหมายของการเรียน การทำงาน portfolio สวยๆ และเป้าหมายของชีวิตได้ชัดเจนแค่ไหน น้อง ๆ ต้องแสดงให้กรรมการเห็นอย่างชัดเจนว่า เราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้จากการเรียนในสาขาวิชาที่สมัครอย่างไร
5. ไม่เน้นความสวยงาม มากไปกว่าผลงานที่นำเสนอแน่นอน
รูปแบบ และ เกณฑ์การคัดเลือก
– แข่งขันโดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน
– เอกสารไม่เกิน 10 หน้ากระดาษ A4 (ไม่รวมปก)
– ไม่สอบข้อเขียน (ข้อสอบกลาง) แต่สามารถคัดเลือกผ่านการ Audition ได้
– ถ้าจะใช้คะแนน GPAX จะเป็นคะแนน 4 หรือ 5 ภาคเรียน
– รายละเอียดอื่น ๆ นำมาเพิ่มเติมในวันสอบสัมภาษณ์ได้
คำเตือน
การยื่น portfolio สมัครงาน แบบเดียวกัน ไปสมัครในหลายหลักสูตร โดยไม่ดูความสอดคล้องของตัวตนกับคุณสมบัติที่สาขาวิชาต้องการ เป็นสิ่งที่ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ และไม่มีแฟ้มสะสมผลงาน ใด เพียง 1 เล่ม ที่เหมาะสมกับการเป็นเครื่องมือนำไปใช้แข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยได้ทุกคณะ อยากเข้าคณะใด ควรจัดทำแฟ้มผลงาน เพื่อคณะนั้น
Portfolio ที่น่าสนใจ ควรมีอะไรบ้าง??
มาเริ่มกันในส่วนของหน้าปก คำนำ สารบัญ และปกหลัง กันดีกว่า รู้ยัง? ว่าหน้าเหล่านี้จะยังไม่ถูกนับ แต่! เป็นส่วนที่ควรให้ความสำคัญมากกกกก โดยเฉพาะหน้าปก เพราะเป็นส่วนแรกที่กรรมการจะเห็น ดังนั้นควรใส่รูปที่ดูโดดเด่นแต่เรียบร้อย เหมือนผ้าพับไว้ และควรใส่ชื่อ นามสกุล ชื่อโรงเรียน ให้ชัดเจน หรืออาจจะเขียนชื่อคณะที่จะยื่นเพิ่มไปด้วยก็ได้จะดีมาก ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม portfolio
หน้าที่ 1 ในส่วนของหน้าประวัติส่วนตัว จะเริ่มถูกนับเป็นหน้าที่ 1 เพื่อน ๆ ควรใส่ข้อมูลส่วนตัวแบบไม่ต้องเยอะ และไม่ยืดยาว ใส่เท่าที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ที่สามารถติดต่อกลับได้และใส่ข้อมูลที่คณะฯ ต้องการเห็น และอยากจะรู้ เช่น ความชอบ ความสนใจ ความสามารถพิเศษ หรือทักษะที่เอื้อต่อการเรียนในคณะที่จะยื่น เตรียมง่ายมากๆเลย แต่ต้องจำไว้ว่าใส่เท่าที่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็น ไม่ต้องใส่
หน้าที่ 2 ในส่วนของประวัติการศึกษา ในส่วนนี้เพื่อน ๆ อาจจะใส่ชื่อโรงเรียนที่จบมาแยกเป็นแค่ช่วง ม.ต้น กับ ม.ปลาย ก็ได้ (แต่ถ้าใครสะดวกอยากใส่ตั้งแต่อนุบาลก็ได้) แต่! ที่จำเป็นต้องใส่ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และถูกต้อง คือ ผลการศึกษา หรือเกรดเฉลี่ย (GPAX) ที่ได้ในแต่ละระดับชั้นนั่นเอง
หน้าที่ 3 เหตุผลที่เลือกเรียนในคณะ/สาขา… ต้องเขียนยังไง อะไร แบบไหน ? ไม่ยากเลย ควรเขียนเพื่อให้กรรมการเห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และแสดงออกถึงทัศนคติที่ดีต่อคณะ/สาขาที่จะยื่น โดย! เขียนเป็นเรียงความแบบย่อ และความยาวไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ A4 ขอย้ำเลยว่า “เขียนให้ดี เขียนให้โดนใจ ถ้าเขียนได้ คุณได้ไปต่อ”
หน้าที่ 4 – 7 ขยับเข้ามาอีกนิด ชิด ๆ เข้ามาอีกหน่อย กับหน้าที่ 4-7 เป็นส่วนที่ต้องตั้งใจเป็นอย่างมาก เพราะเพื่อน ๆ ต้องนำผลงานต่าง ๆ ที่เคยได้ มารวบรวมไว้ในส่วนนี้ แล้วอย่าลืม! คัดเฉพาะอันที่โดดเด่น และเกี่ยวข้องกับคณะที่จะยื่น พร้อมเขียนบรรยายสั้น ๆ ย้ำ! สั้น ๆ เกมสล็อตออนไลน์ ด้วยว่าเป็นผลงานอะไร
แต่ถ้ามีผลงานเยอะแยะตาแป๊ะขายหมู ใส่ตุ้มหูข้างเดียว กลัวใส่ไปแล้วจะเกิน 10 หน้า ก็อาจใช้วิธีเขียนระบุลงไปแทน แล้วพกฉบับจริงแยกไปในกรณีที่กรรมการสัมภาษณ์ขอดูก็ได้
หน้าที่ 8 – 10 สุดท้าย และท้ายสุด กับหน้าที่ 8-10 จะเป็นส่วนที่ให้น้อง ๆ นำรูปถ่ายจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำตอนเรียนมาใส่ไว้ พร้อมบรรยายสั้น ๆ ว่าเป็นกิจกรรมอะไร ควรคัดเฉพาะกิจกรรมที่โดดเด่นเช่นเดียวกับผลงาน เพราะหากมีมากไปอาจจะไม่พอใส่ในแฟ้มผลงาน ที่จำกัดเพียง 10 หน้าเท่านั้น